|
ทำไมต้องซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต |
สะดวกสบาย
คุณสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง จากบ้าน จากที่ทำงาน
จากอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือที่อื่นๆที่คุณสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
ตัดปัญหาการเดินทางฝ่ารถติดไปห้องค้า หรือต่อสายโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่การตลาด
พร้อมพรั่งด้วยข้อมูลข่าวสาร
คุณสามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มากมายและทันสมัยตลอดเวลา ทั้งข้อมูลราคาหลักทรัพย์เรียลไทม์
รายละเอียดบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บทวิเคราะห์จากฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์
ข้อมูลทางสถิติ ข้อมูลปัจจุบันและย้อนหลังเพื่อช่วยในการตัดสินใจของคุณ
คุ้มค่าด้วยค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
ซื้อขายด้วยตัวเอง จูงใจด้วยค่าคอมมิชชั่นระดับต่ำ เพียงแค่ 0.21
% เท่านั้น
เริ่มต้นซื้อขายด้วยเงินทุนเพียงเล็กน้อย
มีเงินมากก็ฝากเงินมาก มีเงินน้อยก็ฝากน้อย ด้วยการเลือกเปิดบัญชีแบบ
Pre-paid ฝากเท่าไหร่ ซื้อขายได้เท่านั้น
ท่านที่สนใจเปิดบัญชีซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ย่อยของเซ็ทเทรด
เรื่อง
การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต
(Internet Trading)
|
|
|
การซื้อขายแบบอินเตอร์เน็ต
เหมาะกับใครบ้าง |
ประเภทแรก
นักลงทุนที่ต้องการความคล่องตัวในการตัดสินใจลงทุน เพราะสามารถส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเอง
พร้อมตรวจสอบสถานะคำสั่ง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยข่าว บทวิเคราะห์และเครื่องมือประกอบการตัดสินใจต่างๆ
ทั้งนี้ควรเป็นคนที่เคยใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมาบ้าง หรือคนที่คิดว่าสามารถเรีบนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ได้
ประเภทที่สอง
คือ นักลงทุนหน้าใหม่ มีเงินทุนไม่มากนัก แต่ต้องการเริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนในหุ้น
คุณสามารถเลือกเปิดบัญชีแบบ Pre-paid คือฝากเงินเพื่อซื้อขายตามกำลังความสามารถในการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง
ประเภทที่สุดท้าย
คือ นักลงทุนที่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด
เพื่อสามารถตัดสินใจลงทุนซื้อขายหุ้นได้ทันท่วงที
|
|
|
บัญชีประเภทไหนบ้างที่สามารถซื้อขายอินเตอร์เน็ต
ได้ |
การซื้อขายแบบออนไลน์ไม่ได้หมายความว่าคุณจะส่งคำสั่งซื้อขายโดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ได้
ก่อนอื่นคุณจะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์หรือซับโบรกเกอร์ให้ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหรือตัวแทนของคุณในการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามายังระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เสียก่อน
โบรกเกอร์จะกำหนดนโยบายบริษัทว่าจะให้บริการบัญชีซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตประเภทใดบ้าง
แต่โดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ประเภท
|
1. บัญชีเงินสด
(Cash Account)
พูดง่ายๆ
ก็คือบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไปที่คุณรู้จักนั่นเอง โบรกเกอร์จะให้วงเงินซื้อขายแก่คุณ
โดยคุณจะซื้อขายหุ้นได้ไม่เกินวงเงินนั้น และต้องชำระเงินค่าซื้อขายและส่งมอบหลักทรัพย์ภายในวันทำการที่
3 ถัดจากวันที่ซื้อขาย (T+3) ถ้าคุณซื้อคุณต้องทำการชำระราคาค่าซื้อเต็มมูลค่าหุ้นที่ซื้อในเวลาที่กำหนด
ไม่สามารถชำระแค่บางส่วนได้ ในวันที่ 1 ก.ค. 47 เป็นต้นไป ได้มีการกำหนดให้ผู้ที่จะซื้อขายหลักทรัพย์ต้องมีหลักประกันเริ่มต้น
10 % เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า บริษัทสมาชิก และตลาดทุนโดยรวม
2. บัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance หรือ
Pre-paid หรือ Cash Deposit) เป็นบัญชีที่คุณต้องฝากเงินไว้กับโบรกเกอร์จำนวนหนึ่งก่อน
สำหรับเป็นเงินชำระค่าหุ้นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และถือว่าเงินจำนวนนั้นเป็นอำนาจซื้อของคุณเอง
เมื่อถึงวันชำระค่าหุ้น (T+3) โบรกเกอร์ก็จะหักเงินออกไปจากส่วนที่ฝากนี้ชำระเป็นค่าหุ้นไปอัตโนมัติ
ถ้าคุณต้องการซื้อหุ้น แต่วงเงินไม่พอ ก็สามารถโอนเงินเพิ่ม เพื่อให้อำนาจซื้อเพิ่มขึ้นได้
บางโบรกเกอร์ก็จะให้ดอกเบี้ยเงินฝากด้วย |
ซื้อขายแบบดั้งเดิม |
ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และตรวจสอบสถานะซื้อขายได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
ต้องระบุราคาเสนอซื้อขายที่แน่นอน (Limit order)
เท่านั้น ไม่สามารถระบุเงื่อนไขการเสนอซื้อขายได้
ซื้อขายได้เฉพาะบนกระดานหลัก
กระดานหน่วยย่อย และกระดานต่างประเทศ ด้วยวิธีจับคู่คำสั่งซื้อขายเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ
(Automated Order Matching: AOM)
ค่าธรรมเนียมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 0.20 ของมูลค่าการซื้อขาย
|
|
|
|
|
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเปิดบัญชีอินเตอร์เน็ต
|
เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้นักลงทุนที่มีทุนน้อยสามารถเริ่มลงทุนซื้อขายหุ้นทางอินเทอร์เน็ตได้ตามกำลังซื้อของตน
โบรกเกอร์มักแนะนำให้ลูกค้าเปิดบัญชีฝากเงินแบบที่เรียกว่า Pre-paid
คือบัญชีที่คุณจะต้องโอนเงินเข้ามาในบัญชีซื้อขายก่อน แล้วจึงสามารถซื้อขายได้ภายในวงเงินที่โอนเข้ามานั้น
หากต้องการซื้อหุ้นเพิ่ม ก็เพียงแค่โอนเงินเข้ามาเพิ่ม อำนาจการซื้อของคุณก็จะเพิ่มขึ้น
สะดวกสำหรับนักลงทุนเพราะไม่ต้องฝากเงินไว้กับโบรกเกอร์นานๆ โดยที่ยังไม่ได้ทำการซื้อขาย |
|
|
ขั้นตอนในการเปิดบัญชีอินเทอร์เน็ต
|
ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
หากคุณสนใจสินค้าและบริการของ
บริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม (จำกัด) โดยเฉพาะด้านระบบคอมพิวเตอร
์ที่ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ต คุณสามารถเปิดบัญชีได้ง่าย
ๆ ตามขั้นตอนที่โบรกเกอร์กำหนด (เซ็ทเทรด
ให้บริการเฉพาะระบบคอมพิวเตอร์ หากคุณสนใจเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต
จะต้องทำการติดต่อกับโบรกเกอร์เท่านั้น)
นอกจากนั้น คุณสามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่การตลาดของโบรกเกอร์ เกี่ยวกับการเปิดบัญชีได้ตลอดเวลา
และก่อนที่คุณจะลงนามเอกสารใด ๆ คุณควรจะอ่านรายละเอียดเงื่อนไขในเอกสารต่างๆ
ของโบรกเกอร์ให้รอบคอบ (เอกสารที่ใช้สำหรับแต่ละโบรกเกอร์ อาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย)
โดยทั่วไปแล้ว ก็จะมีขั้นตอนที่คุณจะต้องกระทำ ดังนี้
1) ติดต่อขอเอกสารการเปิดบัญชี
สัญญาและเอกสารแนบต่าง ๆ ที่ใช้ในการเปิดบัญชี โดยคุณสามารถดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตหรือติดต่อได้ที่สำนักงานของโบรกเกอร์ที่คุณเลือกก็ได้
2)
กรอกรายละเอียดใบคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ให้ครบถ้วนพร้อมเซ็นชื่อ
และแนบเอกสารประกอบการเปิดบัญชี ส่งให้กับโบรกเกอร์
3)
รอผลการพิจารณาจากโบรกเกอร์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
4)
เมื่อได้รับการอนุมัติให้เปิดบัญชีแล้ว คุณจะได้รับแจ้งเลขที่บัญชี
หรือรหัสประจำตัวลูกค้าซึ่งจะใช้ในการส่งคำสั่งซื้อขาย เปลี่ยนแปลง
ยกเลิก รวมทั้งการชำระเงิน หรือในการติดต่อใด ๆ กับโบรกเกอร์ รหัสนี้คุณต้องเก็บเป็นความลับ
เพราะมิฉะนั้นแล้วอาจมีผู้แอบอ้างทำให้เกิดความเสียหายได้
หลังจากที่คุณได้รับอนุมัติเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์แบบออนไลน์
เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ตลอดเวลาด้วยตัวเอง
เพิ่มความสะดวกและคล่องตัวในการลงทุน |
|
|
ส่งคำสั่งซื้อขายได้ในช่วงเวลาใด |
เพราะการซื้อขายทางอินเทอร์เน็ต
ไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องเวลาส่งคำสั่ง คุณจึงสามารถส่งคำสั่งได้ตลอดทั้ง
24 ชั่วโมง แม้แต่ตอนตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ หรือในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
หากคุณส่งคำสั่งในช่วงที่ตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการ คำสั่งของคุณก็จะส่งตรงสู่ตลาดหลักทรัพย์
คุณสามารถตรวจสอบสถานะคำสั่งได้ทันทีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ สำหรับคำสั่งซื้อขายที่ส่งเข้ามาในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้เปิดทำการ
คำสั่งของคุณก็จะถูกจัดเรียงตามลำดับเวลาที่คุณส่งคำสั่งเข้ามา
และจะถูกส่งไปยังตลาดหลักทรัพย์ทันทีที่ตลาดเปิดทำการ |
|
|
มีข้อมูลอินเตอร์เน็ตอะไรช่วยการตัดสินใจ |
เว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการซื้อขายหุ้นออนไลน์นั้น
ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการรับส่งคำสั่งซื้อขายเท่านั้น แต่ยังเพียบพร้อมด้วยข้อมูลข่าวสารประกอบการตัดสินใจลงทุนของคุณ
ปัจจุบันข้อมูลที่ให้บริการบนเว็บไซต์ส่วนใหญ่ประกอบด้วย
ข้อมูลหุ้นเรียลไทม์ (Real-time trading information) ได้แก่ ราคาเสนอซื้อ-เสนอขายหลักทรัพย์
ดัชนีราคาหลักทรัพย์ ปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย ภาพรวมการซื้อขาย
สรุปอันดับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายมากที่สุด ราคาเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลง
เป็นต้น ส่วนใหญ่จะสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้
ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน (Listed Companies Info) เช่นรายชื่อคณะกรรมการบริษัท
ลักษณะหรือประเภทธุรกิจ งบการเงินประจำงวดต่างๆ รวมทั้งข่าวสารความเคลื่อนไหวอื่นๆของแต่ละบริษัท
โดยสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้
รายงานและบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ส่วนใหญ่จะเป็นบทวิเคราะห์ที่จัดทำโดยนักวิเคราะห์ของแต่ละโบรกเกอร์
อาจแยกเป็นวิเคราะห์ข่าวประจำวัน รายงานหุ้นเด่นวันนี้ บทวิเคราะห์รายอุตสาหกรรม
รายหลักทรัพย์ วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ความเคลื่อนไหวของดัชนี
และข่าวสารของตลาดหุ้นต่างประเทศที่สำคัญ
นอกจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น
โบรกเกอร์มักมีรูปแบบในการนำเสนอบริการเสริมอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลพร้อมประกอบการตัดสินใจ
เช่น เครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ระบบเตือนอัตโนมัติทางโทรศัพท์มือถือ
ระบบโอนเงินทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น |
|
|
รวมลิงค์เปิดบัญชีอินเตอร์เน็ต
กับโบรกเกอร์ |
เรารวบรวมลิงค์ข้อมูลการเปิดบัญชีออนไลน์ของโบรกเกอร์ที่มีการเผยแพร่ในเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชีของคุณ หากคุณต้องการติดต่อสอบถามโบรกเกอร์อื่น
ค้นหาข้อมูลสำหรับติดต่อบริษัทได้ที่นี่
|
|
|
|
เอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ |
|
|
นั้นมาจากคำว่า
Public Offering เป็นการเสนอขายหุ้นที่มีอยู่แล้วใน
ตลท.เพื่อระดมทุนเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็น IPO จะเป็นการขายหุ้นใหม่
ที่ไม่เคยมีการเสนอขายมา |
R
แบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
R
สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
พร้อมค่าอากรแสตมป์ 30 บาท
R
สัญญาดูแลและรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
(ถ้ามี)
R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อ
R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง
R
สำเนาทะเบียนบ้าน
R
สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
R
สำเนาใบแจ้งรายการบัญชีธนาคารหรือสำเนาสมุดเงินฝากย้อนหลัง
6 เดือน
R
เอกสารแสดงเงินเดือน
R
แบบคำขอใช้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
(เฉพาะกรณีเลือกซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต)
R
แบบคำขอใช้บริการจ่ายชำระระบบอัตโนมัติ/แบบคำขอให้หักบัญชีเงินฝาก/แบบคำขอใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ
Tele-Banking (กรณีให้บริษัทหักค่าซื้อจากบัญชี
และ/หรือนำเงินค่าขายเข้าบัญชี)
|
|
|
R
แบบฟอร์มคำขอเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
R
สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้าเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์
พร้อมค่าอากรแสตมป์ 30 บาท
R
สัญญาดูแลและรักษาทรัพย์สินของลูกค้า
(ถ้ามี)
R
หนังสือมอบอำนาจ
(เซ็นโดยกรรมการผู้มีอำนาจ) พร้อมค่าอากรแสตมป์
ฉบับละ 30 บาท
R
หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
R
สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิ
วัตถุประสงค์ ทะเบียนรายชื่อผู้ถือหุ้น
R
สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
R
งบการเงินย้อนหลัง
3 ปี
R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการผู้มีอำนาจ
R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ
R
สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจ
R
แบบคำขอใช้บริการจ่ายชำระระบบอัตโนมัติ /แบบคำขอให้หักบัญชีเงินฝาก
/ แบบคำขอใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ Tele-Banking (กรณีที่ต้องการให้บริษัทหักค่าซื้อจากบัญชี
และ/หรือนำเงินค่าขายเข้าบัญชี)
|
|
กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นกระทำการแทน |
R
หนังสือมอบอำนาจ
พร้อมค่าอากรแสตมป์
ฉบับละ 30 บาท
R
บัตรตัวอย่างลายมือชื่อของผู้รับมอบอำนาจ
R
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
R
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ
|
|
|
|
|
เทคนิคการเล่นหุ้นผ่านอินเทอร์เนตให้ปลอดภัย |