การซื้อขายหลักทรัพย์ (Trading Instructions)
1. |
สำหรับท่านที่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์
ประเภท Cash Balance วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของบัญชีซื้อขายประเภทนี้
จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ท่านฝากไว้กับบริษัทฯ
|
2. |
เมื่อบริษัทฯ ได้อนุมัติเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทออนไลน์ให้กับท่านแล้ว
บริษัทฯ ขอให้ท่านทำการฝากเงินมายังบริษัทฯ ขั้นต่ำ 50,000.-
บาท เพื่อเป็นวงเงินเริ่มต้นในการซื้อขายหลักทรัพย์ของท่าน
โดยโอนเงินมายังบริษัทฯ ภายใต้บัญชีชื่อ บริษัทหลักทรัพย์
ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อลูกค้า
ทั้งนี้ ท่านสามารถเลือกทำรายการผ่านธนาคาร 5 ธนาคาร ประเภทออมทรัพย์
ตามรายละเอียดดังนี้
|
ธนาคาร |
สาขา |
เลขที่บัญชี |
ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด (มหาชน) |
สำนักสีลม |
001-3-041048-3 |
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) |
พญาไท |
003-2-80367-8 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) |
สยามสแควร์ |
038-2-68705-7 |
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) |
สยามสแควร์ |
026-2-58641-3 |
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) |
ราชเทวี |
123-4-01780-2 |
ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์ตเตอร์ นครธน |
สำนักงานใหญ่ |
000-2-33582-7 |
หลักจากทำการฝากเงินผ่านธนาคารดังกล่าวข้างต้นแล้ว
ท่านสามารถเลือกช่องทางในการแจ้งให้บริษัทฯ ทราบดังนี้
 |
แฟกซ์ใบนำฝากเงิน พร้อมระบุเลขที่บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของท่าน
มายังฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์
ที่โทรสาร 0-2657-7570
|
 |
โทรศัพท์แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์
หมายเลขโทรศัพท์ 0-2657-7542 ถึง 7550
|
 |
แจ้งการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยเข้าไปที่
Online Trading คลิกที่ Account Management แล้วเลือก
Cash Deposit ท่านจะพบ "แบบฟอร์มแจ้งการโอนเงินแก่บริษัท
(Online Cash Deposit Notification)" กรุณากรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนส่งมายังบริษัทฯ
|
3. |
การนำฝากเงินด้วยเงินสด เงินโอนผ่านทางธนาคาร
วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ (Line Available) ของท่านจะเพิ่มขึ้นในวันทำการถัดจากวันที่บริษัทฯ
ได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว สำหรับกรณีที่ฝากด้วยเช็ค วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์
(Line Available) จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการยืนยันจากธนาคารว่าเรียกเก็บเงินตามเช็คได้แล้ว
|
4. |
กรุณาตรวจสอบวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์
(Line Available) ของท่านทุกครั้ง ก่อนที่ท่านจะทำการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์
เมื่อท่านส่งรายการซื้อหลักทรัพย์ วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์จะถูกหักโดยอัตโนมัติ
และวงเงินจะถูกคืนเมื่อท่านยกเลิกรายการซื้อหลักทรัพย์นั้นๆ
|
5. |
สำหรับการขายหลักทรัพย์ เมื่อรายการได้รับการยืนยันการขาย
หรือจับคู่ (Matched) จากตลาดหลักทรัพย์ฯ วงเงินซื้อขายหลักทรัพย์ของท่านจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติเท่ากับยอดเงินที่ขายได้
|
6. |
คำสั่งซื้อ และ/หรือ ขายหลักทรัพย์
(Order) จะมีอายุเพียง 1 วันทำการ (Day Order)
เท่านั้น ภายในเวลา 17.00 น. ถึง 17.05 น. ของทุกวันทำการ
ระบบซื้อขายหลักทรัพย์จะทำการคืนวงเงิน และ/หรือหลักทรัพย์
สำหรับคำสั่งที่ไม่รับการยืนยัน หรือจับคู่ และจะเปลี่ยนสถานะของคำสั่งที่ไม่ได้รับการยืนยันเป็น
"E" (Expired) หมายถึง คำสั่งนั้นๆ ได้หมดอายุลงแล้ว
|
7. |
ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะของคำสั่ง
หรือบัญชีลงทุน (Portfolio) ของท่าน ได้ทุกเมื่อ โดยการคลิกที่
" View Order & Portfolio" และเลือก "Trading
Portfolio".
|
8. |
ท่านสามารถตรวจสอบรายการซื้อขายทั้งหมดของท่านในวันนั้นๆ
ได้โดยการเข้าไปที่ "View Order & Portfolio"
และคลิกที่ "Total Deal Summary" จะแสดงข้อมูลจำนวนเงินซื้อขายของแต่ละหุ้นในวันนั้น
(ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
|
9. |
หากท่านต้องการทราบรายการชำระราคา
ท่านสามารถเข้าไปดูที่ "View Order & Portfolio"
และคลิกที่ "Confirmation Report" ซึ่งจะแสดงข้อมูลการชำระราคาของ
3 วันทำการก่อน แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะจัดส่ง ใบยืนยันซื้อขายหลักทรัพย์ไปยังท่านทางไปรษณีย์ในวันรุ่งขี้นหลังจากวันซื้อขายหลักทรัพย์
|
10. |
หากท่านมีความประสงค์จะซื้อขายหุ้น
เอ็นวีดีอาร์ (NVDR) ขอให้ท่านระบุในคำสั่งซื้อหรือขายว่าเป็นการซื้อขายเอ็นวีดีอาร์
โปรดคลิกที่นี่
หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอ็นวีดีอาร์
|
กลับไปด้านบน
เอ็นวีดีอาร์ (NVDR Trade)
เอ็นวีดีอาร์ คืออะไร
เอ็นวีดีอาร์ (NVDR)
หรือใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย
เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์จัดตั้งขึ้น
ซึ่งคือ "บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด" (Thai NVDR
Company Limited) โดยมีลักษณะเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนอัตโนมัติ
(Automatic List) วัตถุประสงค์หลักของเอ็นวีดีอาร์ คือ เพื่อกระตุ้นการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนได้โดยไม่ต้องติดเรื่องเพดานการถือครองหลักทรัพย์ของชาวต่างชาติ
(Foreign Limit) พร้อมทั้งสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน
เช่น เงินปันผล และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้เอ็นวีดีอาร์ยังช่วยขจัดปัญหาของผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศบางประเทศที่ไม่สามารถลงทุนในหน่วยลงทุน
ซึ่งรวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมเพื่อ ลงทุนซึ่งเป็นคนต่างด้าว
(Thai Trust Fund : TTF) ได้ ทั้งนี้ ผู้ถือเอ็นวีดีอาร์จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน
(Non-Voting Rights) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเอ็นวีดีอาร์จะออกมาเพื่อส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนชาวต่างประเทศ
แต่ก็อนุญาตให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในเอ็นวีดีอาร์ได้
การซื้อขายเอ็นวีดีอาร์ (NVDR Trading
Guidelines)
การซื้อขายเอ็นวีดีอาร์เป็นลักษณะเดียวกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป
เพียงแต่ในการสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ นัก ลงทุนต้องระบุในคำสั่งซื้อหรือขายว่าเป็นการซื้อหรือขายเอ็นวีดีอาร์
กลับไปด้านบน
สิทธิประโยชน์ (Investor Relations Information)
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ต่างด้าว (Stock
Holding)
ตามกฎและข้อบังคับเกี่ยวกับการถือครองหลักทรัพย์สามัญของนักลงทุนต่างด้าว
กำหนดให้นักลงทุนต่างด้าว หรือชาวต่างชาติถือหุ้นสามัญทั้งหมดไม่เกินร้อยละ
49 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ยกเว้นในหมวดอุตสาหกรรมธนาคารและบริษัทเงินทุน
ซึ่งยินยอมให้นักลงทุนต่างด้าวถือหุ้นสามัญได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ
25 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
เพื่อเป็นการแน่ใจว่าท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ในการลงทุนในหลักทรัพย์
ท่านควรถือหุ้นในสถานะที่เหมาะสม ได้แก่ นักลงทุนชาวไทย ควรลงทุนในหลักทรัพย์ไทย
นักลงทุนชาวต่างชาติ ควรลงทุนในหลักทรัพย์ต่างด้าว (Foreign)
หรือหุ้นเอ็นวีดีอาร์ (NVDR)
นักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีสถานะต่างด้าว
(Foreign) จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น เงินปันผล สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
การเข้าประชุมผู้ถือหลักทรัพย์ เป็นต้น แต่ถ้านักลงทุนต่างชาติลงทุนใน
หลักทรัพย์ที่มีสถานะเป็นเอ็นวีดีอาร์ (NVDR) จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน
เช่น เงินปันผล และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน แต่จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน
(Non-Voting Rights) โปรดคลิกที่นี่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของเอ็นวีดีอาร์
(NVDR)
สิทธิประโยชน์ (Investor's Benefits)
ก. |
หุ้นเพิ่มทุน (Right Issue)
หลังจากปิดสมุดจดทะเบียน นายทะเบียนหลักทรัพย์จะรวบรวมรายชื่อผู้ถือหลักทรัพย์ทั้งหมด
เพื่อคำนวณและจัดสรรสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น เงินปันผล
สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน การเข้าประชุมผู้ถือหลักทรัพย์
เป็นต้น บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะจัดส่งใบจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนไปยังผู้ถือหลักทรัพย์โดยตรง
โดยจะส่งไปยังที่อยู่ที่ท่านได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ เมื่อเปิดบัญชี
หากท่านมีความประสงค์จะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท จดทะเบียนนั้นๆ
ก็สามารถจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้โดยผ่านบริษัทฯ หรือจองโดยตรงกับบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ
|
ข. |
เงินปันผล (Dividend)
เมื่อปิดสมุดจดทะเบียนแล้ว บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์จะดำเนินการนำส่งเช็คเงินปันผล
พร้อมทั้งหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ส่งให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ตามที่อยู่ที่แจ้งกับบริษัทฯ
ทางไปรษณีย์ กรณีที่ท่านได้รับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียน
บริษัทจำกัด หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ท่านจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10%
เงินปันผลจะถูกจ่ายเป็นเงินไทยเท่านั้น
เพราะฉะนั้นบริษัทฯ ขอแนะนำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารกับธนาคารใดธนาคารหนึ่งในประเทศไทย
เพื่อผลประโยชน์ในการรับเงินปันผลได้อย่างรวดเร็ว
|
กลับไปด้านบน
การชำระราคาค่าซื้อขายหลักทรัพย์ (Settlement)
เมื่อท่านได้รับการยืนยันผลการซื้อขาย
ท่านจะต้องชำระค่าซื้อหลักทรัพย์ หรือรับเงินค่าขายหลักทรัพย์
ณ วัน ทำการที่ 3 หลังจากเกิดรายการซื้อขายหลักทรัพย์ (T+3 โดย
T = วันที่เกิดรายการซื้อขาย) สำหรับลูกค้าออนไลน์ที่มีบัญชีประเภท
Cash Balance หรือชำระเงินผ่านระบบตัดชำระเงินอัตโนมัติ (ATS)
เงินค่าซื้อ หลักทรัพย์จะถูกหักจากบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติ
สำหรับค่าขายบริษัทฯ จะนำฝากเข้าบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกันในวันทำการที่
3 หลังจากเกิดรายการซื้อขายหลักทรัพย์ (T+3)
ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลการชำระราคาของ
3 วันทำการก่อน ได้โดยเข้าไปที่ "View Order & Portfolio"
และคลิกที่ "Confirmation Report"
กลับไปด้านบน
ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์ (Commission)
บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์จากลูกค้าออนไลน์
หรืออินเทอร์เน็ต ในอัตราร้อยละ 0.21 ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์
และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตราร้อยละ 7 ของค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์
สำหรับรายการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด
บริษัทฯ จะเรียกเก็บอัตราค่าธรรมเนียมในการซื้อขายหลักทรัพย์
ในอัตราร้อยละ 0.25 ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม
(VAT) ในอัตราร้อยละ 7 ของค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์
ทั้งนี้บริษัทฯ
จะจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาทต่อวัน สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผ่านออนไลน์
หรืออินเทอร์เน็ต
หมายเหตุ อัตราค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์
และอัตราค่าธรรมเนียมขั้นต่ำอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และตามแต่บริษัทฯ จะเห็นสมควร
กลับไปด้านบน
ดอกเบี้ย (Interest Rate)
สำหรับลูกค้าออนไลน์
ที่มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท Cash Balance บริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ท่านในอัตราร้อยละ
1 ต่อปี ทั้งนี้บริษัทฯ จะนำฝากเข้าบัญชีของท่านโดยอัตโนมัติในวันที่
1 ของเดือนถัดไป
ท่านสามารถตรวจสอบรายการเคลื่อนไหวของเงิน
ได้โดยเข้าไปที่ "View Order & Portfolio" และคลิกที่
"Cash Movement" ในเมนูย่อย ข้อมูลการเคลื่อนไหวของเงินจะแสดงรายการเคลื่อนไหวในรอบ
30 วัน
หมายเหตุุ อัตราดอกเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามแต่บริษัทฯ
จะเห็นสมควร
กลับไปด้านบน
ภาษีอากร (Taxes)
ภาษีอากรสำหรับผู้ลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา
 |
เงินกำไรจากการขายหลักทรัพย์
ผู้ลงทุนไทย และต่างชาติ จะได้รับการยกเว้นภาษี เว้นแต่เงินกำไรจากการขายหลักทรัพย์
ประเภทหุ้นกู้ พันธบัตร ซึ่งจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ
15 โดยมีสิทธิเลือกที่จะนำมารวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้
|
 |
เงินปันผล
กรณีที่ท่านได้รับเงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด
หรือบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ท่านจะถูกหักภาษี
ณ ที่จ่ายไว้ในอัตราร้อยละ 10 โดยมีสิทธิเลือกที่จะนำมารวมคำนวณภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้
สำหรับชาวต่างชาติกำหนดให้นำไปรวมคำนวณภาษีปลายปี
|
 |
ดอกเบี้ย
สำหรับจำนวน เงินที่ท่านฝากไว้กับบริษัทฯ เพื่อเป็นวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์นั้น
บริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1 ต่อปี แต่ทั้งนี้จะถูกหักภาษี
ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 และมีสิทธิเลือกที่จะนำดอกเบี้ยมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ปลายปีหรือไม่ก็ได้
|
 |
สำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ โปรดตรวจสอบเงื่อนไขการหักภาษี
ณ ที่จ่าย ตามอนุสัญญาภาษีซ้อนของประเทศนั้นๆ
|
กลับไปด้านบน
|