บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ที่ปรึกษาทางการเงิน BWHREIT เปิดขาย IPO เร็วๆ นี้ คาดผลตอบแทนปีแรก 8.5% ลงทุน 3 โรงแรมชั้นนำ
“กองทรัสต์ บูลเวล ฮอสพิทอลลิตี้” เปิดขาย IPO เร็วๆ นี้ มูลค่าทรัพย์สิน 4,420 ล้านบาท ลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าโรงแรม 3 แห่ง ภูเก็ต สมุย เขาใหญ่ คาดผลตอบแทนปีแรก 8.5%
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าบูลเวล ฮอสพิทอลลิตี้ หรือ Blue Whale Hospitality Freehold and Leasehold Real Estate Investment Trust (BWHREIT) กล่าวว่า ในภาวะที่ตลาดหุ้นกำลังผันผวนทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ การลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust: REIT) ถือเป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้น และมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำหรือพันธบัตรรัฐบาล ปัจจุบันอยู่ประมาณ 7% ถือเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทน ทั้งจากส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน (Capital Gain) และเงินปันผลที่สม่ำเสมอ
“กอง REIT ในตลาดปัจจุบันราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากซัพพลายน้อยกว่าดีมานด์ ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งเงินปันผล และส่วนต่างราคา อีกทั้งยังมองว่าการมีกอง REIT อยู่ในพอร์ตการลงทุน ทำให้เกิดความเสถียร ลดความผันผวน และกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต ซึ่ง BWHREIT จะเป็นหนึ่งในกองทรัสต์ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งให้ผลตอบแทนในปีแรกสูงถึง 8.50% ต่อปี สูงกว่าผลตอบแทนของกอง REIT ในตลาดที่เฉลี่ย 7% ต่อปี” นางภัทธีรากล่าว
วงเงินลงทุนครั้งแรกในกองทรัสต์ BWHREIT จะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 4,420 ล้านบาท โดยจะมาจากการระดมทุนเสนอขายหน่วยทรัสต์ และกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน โดยกองทรัสต์ประมาณการอัตราผลตอบแทน ที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในปีแรกอยู่ที่ประมาณ 8.50% ซึ่งขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้พิจารณาและอนุมัติเบื้องต้น (นับ 1 Filing) แล้ว เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 62
BWHREIT จะลงทุนครั้งแรกในกรรมสิทธ์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม 3 แห่ง ในภูเก็ต เกาะสมุย และเขาใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย ได้แก่
1. กรรมสิทธิ์ในที่ดิน อาคารและสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมแลงแฮม สแปลช จังเกิ้ล หาดไม้ขาว จ.ภูเก็ต เนื้อที่ดินประมาณ 57 ไร่ เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว บริหารโดย Langham Hospitality Group มีห้องพัก 455 ห้อง อัตราเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 5 เดือนแรก ปี 2562 อยู่ที่ 67%
2. การลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงในที่ดิน อาคารและกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม หรรษา สมุย รีสอร์ท แอนด์ สปา บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รวมเนื้อที่ดินประมาณ 5 ไร่ 2 งาน 9.5 ตารางวา เป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นโรงแรมติดหาดระดับ 5 ดาว สไตล์ลักซูรี่ บริหารงานโดย เครือหรรษา กรุ๊ป มีห้องพักจำนวน 74 ห้อง อัตราเข้าพักเฉลี่ยในปี 2561 อยู่ที่ 75%
3. สิทธิการเช่าที่ดิน อาคาร และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ และศูนย์ประชุม KYCC ใน จ.นครราชสีมา เนื้อที่ดินประมาณ 22 ไร่ เป็นเวลา 30 ปี เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องพัก 254 ห้อง โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยในปี 2561 อยู่ที่ 54% และมีศูนย์ประชุมที่ใหญ่ที่สุดในเขาใหญ่ รองรับผู้เข้าใช้บริการได้กว่า 5,000 คน บริหารงานโดย ซีนิคอล เวิร์ล
สำหรับจุดเด่นของ BWHREIT คือ การลงทุนในโรงแรมทั้ง 3 แห่ง ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่หลากหลาย จับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวแตกต่างกัน สามารถลดความผันผวนของรายได้ในแต่ละฤดูกาล และสร้างความสมดุลให้กับพอร์ตการลงทุน โดยโรงแรมหรรษา สมุย เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวยุโรปเป็นหลัก และมีชาวอิสราเอล, จีน, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, ออสเตรเลีย และโรงแรมกรีนเนอรี่ เขาใหญ่ และศูนย์ประชุม เน้นตลาดไมซ์ที่เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทยมาประชุมและสัมมนา
นอกจากนี้ BWHREIT มีการผสมผสานการลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) และสิทธิการเช่า (Leasehold) ที่เหมาะสมในสัดส่วน 57% และ 43% ตามลำดับ อีกทั้งกองทรัสต์จะให้เช่าทรัพย์สิน ที่มีส่วนประกอบทั้งค่าเช่าคงที่ที่เพิ่มขึ้น 2% ต่อปี และค่าเช่าแปรผัน เพื่อให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอจากผลการดำเนินงานของโรงแรม รวมถึงโอกาสเติบโตจากศักยภาพการสร้างผลกำไรในอนาคตอีกด้วย
ภาพกิจกรรม





